178 Dharmniti Building 6-7th Floor, Soi Permsap (Prachachuen 20), Prachachuen Road, Bangsue, Bangkok, 10800 Thailand

General News

เงินคงคลัง "ภาพลวงตา" ของจริงอาจน้อยกว่าที่คิด

Written by

กลายเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางว่า "รัฐบาลถังแตกหรือไม่?" ถึงต้องตัดสินใจขึ้นภาษีสรรพสามิตน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องบินภายในประเทศ


ร้อนถึง พลโทสรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกรัฐบาล ต้องออกแถลงและส่งข้อมูลผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ ยืนยันว่าไม่เกี่ยวกัน และฐานะการคลังของรัฐบาลยังแข็งแกร่ง


ประเด็นนี้ต้องถือว่า "ร้อนแรงจริงๆ" เพราะนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อได้ฟังคำถามนี้จากนักข่าวก็ถึงกับปรอทแตกทันที


แม้ท่านนายกฯ จะออกมาขอโทษในวันต่อมา และชี้แจงอ้อมๆ แบบติดตลกว่าฐานะการคลังของไทยยังเป็นบวก แต่ข้อมูลจากฝั่งนักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์หลายคนที่ออกมาเปิดตัวเลขต่อสาธารณะต้องนับว่าน่าตกใจ


เริ่มจาก อาจารย์เดชารัตน์ สุขกําเนิด จากคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่ได้โพสต์เฟซบุ๊คส่วนตัวให้ข้อมูลเอาไว้ว่า สองปีกว่าภายใต้การบริหารงานของรัฐบาล คสช. ตัวเลขเงินคงคลังลดลงไปถึง 420,840 ล้านบาท


ขณะที่ อาจารย์พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์ จากคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ตั้งคำถามไว้ในเฟซบุ๊คส่วนตัวว่า รัฐบาลมีรายรับเดือนละ 1 แสน 5 หมื่นถึง 3 แสนล้านบาท แต่มีรายจ่ายเดือนละ 2 แสนถึง 4 แสนล้านบาท เฉพาะเงินเดือนค่าจ้างพนักงานและข้าราชการก็ปาเข้าไปเดือนละ 5 หมื่นล้านบาทแล้ว การที่เงินคงคลังเหลือเพียง 7 หมื่น 4 พันล้านบาท จะฉิวเฉียดเกินไปหรือไม่


"ทีมล่าความจริง" ตรวจสอบพบว่า ความสำคัญของ "เงินคงคลัง" คือเงินที่สะท้อนฐานะการคลังที่แท้จริงของรัฐบาล เงินทั้งหมดจะรวมอยู่ในบัญชีเงินคงคลังบัญชีที่ 1 ซึ่งเปิดไว้ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย และมีกระจายอยู่บ้างตามคลังจังหวัดต่างๆ


หากเปรียบเงินคงคลังเป็นถังใส่เงิน ถังใบนี้จะมีเงินไหลเข้าจาก 2 ก๊อกด้วยกัน ก๊อกที่หนึ่ง คือ เงินในงบประมาณ ได้แก่ รายได้แผ่นดิน ภาษีอากร เงินจากการยึดทรัพย์ เงินกู้ขาดดุล และพันธบัตร  เหล่านี้ถือเป็นเงินในงบประมาณ


ส่วนก๊อกที่สอง คือ เงินนอกงบประมาณ ได้แก่ เงินฝากของหน่วยงานต่างๆ โดยเฉพาะรัฐวิสาหกิจ เงินขายบิล เงินที่ต้องจ่ายคืน ทุนหมุนเวียน เงินทดรองราชการ และเงินกู้ประเภทต่างๆ ทั้งสองก๊อกนี้เรียกง่ายๆ ว่าเงินคงคลังขาเข้า


ขณะที่เงินคงคลังขาออก จะอยู่ที่บัญชีเงินคงคลังบัญชีที่ 2 ซึ่งเปิดไว้ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยเช่นกัน กฎหมายบังคับไว้ว่าเมื่อรัฐบาลจะใช้จ่ายรายการใด ก็ให้ดึงเงินจากบัญชีที่ 1 มาไว้ที่บัญชีที่ 2 แล้วจ่ายออกไป เช่น เงินเดือนข้าราชการ หรือเงินโครงการพัฒนาต่างๆ ตามแผนที่กำหนดในพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี


ถังเงินคงคลังขาออกนี้ จะมีเงินไหลออก 2 ก๊อกเช่นกัน คือ เงินรายจ่ายประจำตามแผนงบประมาณก๊อกหนึ่ง กับเงินที่หน่วยงานหรือรัฐวิสาหกิจต่างๆ ถอนคืนอีกก๊อกหนึ่ง


อาจารย์ปรีชา สุวรรณทัต นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินคลัง ให้ข้อมูลกับ "ทีมล่าความจริง" ว่า ประเทศไทยคิดยอดเงินคงคลังจากตัวเลขรวมทั้งหมด คือ ทั้งเงินในงบประมาณ บวกกับเงินนอกงบประมาณ ทั้งๆ ที่เงินนอกงบประมาณนั้น ไม่สามารถนำมาอ้างอิงเพื่อสะท้อนฐานะการคลังที่แท้จริงได้ เนื่องจากหน่วยงานหรือรัฐวิสาหกิจที่นำเงินมาฝากไว้ สามารถถอนเงินกลับไปได้ตลอดเวลา


ฉะนั้น หากพิจารณาเฉพาะรายได้ที่แท้จริงของรัฐบาล จึงต้องนับเฉพาะเงินในงบประมาณเท่านั้น ส่วนเงินนอกงบประมาณ คือรายรับที่ไม่ใช่รายได้ที่แท้จริง เพราะไม่ได้ทำให้รายได้ของรัฐบาลเพิ่มขึ้น เนื่องจากเป็นเงินที่ไหลเข้ามาอยู่ในถังเงินคงคลังเพียงชั่วคราว ระหว่างที่รอเจ้าของที่แท้จริงขอเบิกถอนคืนไปเท่านั้น


อาจารย์ปรีชา สรุปว่า คำยืนยันของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่ว่าฐานะการคลังยังอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง แม้ปัจจุบันเงินคงคลังจะลดลงอยู่ที่ประมาณ 7 หมื่นกว่าล้านบาทนั้น แท้ที่จริงแล้วเป็นเพียง "ภาพลวงตา" เพราะไม่แยกแยะให้ชัดเจนว่าเงินส่วนไหนเป็นเงินในงบประมาณ และส่วนไหนเงินนอกงบประมาณ ทำให้ดูเหมือนว่าเงินคงคลังยังสูงอยู่ แต่หากนำมาแยกแยะกันชัดๆ ผลอาจกลายเป็นว่าเงินคงคลังนอกงบประมาณมีมากกว่าเงินในงบประมาณก็เป็นได้ เผลอๆ เงินคงคลังที่เป็นเงินในงบประมาณอาจจะติดลบอยู่ก็เป็นได้เช่นกัน


อาจารย์ปรีชา ชี้ว่า นานาอารยประเทศมักจะแยกรายรับที่เป็นรายได้ที่แท้จริง กับรายรับที่ไม่ใช่รายได้ที่แท้จริงออกจากกัน เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า "เงินจริง" กับ "เงินแสร้ง" เพื่อให้เกิดความชัดเจนเกี่ยวกับฐานะการคลัง


คำถามก็คือรัฐมนตรีคลังและผู้ใหญ่ในรัฐบาลกล้าเปิดตัวเลข "เงินจริง" หรือไม่ เพราะที่ผ่านมายังเปิดเฉพาะ "เงินแสร้ง" เท่านั้น และที่สำคัญ เงินทุนสำรองระหว่างประเทศที่นายกรัฐมนตรีอ้างว่ายังสูงเป็นอันดับต้นๆ ของโลก...นั่นก็เป็นคนละเรื่องกับเงินคงคลัง!

 

 

ขอบคุณที่มา : Now26

About Us

Dharmniti Auditing Co.,Ltd. is a professional service company that specializes in auditing and assurance service.

Privacy Notice

etax