สอบบัญชี

วิถี audit กับ ชีวิตคุณแม่

หากพูดถึงอาชีพผู้สอบบัญชีหลายๆ ท่านอาจเข้าใจว่า ทำงานหนัก ไม่มีเวลา และการมีครอบครัวอาจจะเป็นอุปสรรคต่อการทำงาน วันนี้เรามาสัมภาษณ์คุณแม่ลูกสอง  ว่ามีวิธีการจัดการเวลาทั้งเรื่องงานและเรื่องครอบครัวกันอย่างไร

เริ่มที่ท่านแรก คุณอริสา ชุมวิสูตร (คุณฝน) ผู้สอบบัญชีตลาดทุนกับบทบาทความเป็นแม่ลูกแฝด-น้องนารินกับน้องมาวิน

การวางแผนชีวิตเมื่อเป็นแม่

เมื่อรู้ว่ามีลูกแน่นอนว่าดีใจมาเป็นอันดับหนึ่ง เพราะวางแผนไว้แล้วล่วงหน้าว่าจะมีลูก แต่หลังจากนั้นก็มีความกังวลตามมาว่าจะเลี้ยงยังไง เพราะไม่คิดว่าจะได้ลูกแฝด

แต่จะว่าไปพี่วางแผนชีวิตมาตั้งแต่ตอนเข้ามาทำงานแล้วว่าพี่จะต้องสอบ CPA ให้ได้เร็วที่สุด เหตุผลเพราะพี่อยากใช้ชีวิตให้คุ้มค่า ตอนนั้นคิดว่าถ้ายังสอบไม่ผ่าน ก็ต้องใช้เวลาเสาร์-อาทิตย์มานั่งอ่านหนังสืออย่างเดียวโดยไม่ได้ไปทำอย่างอื่นเลย ก็เลยตั้งใจสอบให้ได้เร็วๆ เพื่อจะได้ใช้ชีวิตในแบบที่อยากเป็น ได้ไปในสถานที่ที่อยากไป แล้วในที่สุดพี่ก็สอบได้เป็น CPA ก่อนที่จะทำงานครบ 3 ปี หลังจากนั้นพี่ก็เรียนต่อปริญญาโท แล้วพออายุ 31 ปีพี่ก็ตัดสินใจแต่งงาน และขอใช้ชีวิตคู่ด้วยกันไปก่อนสักพัก

จนเวลาผ่านไป ด้วยประสบการณ์ที่สะสมมาตลอดชีวิตการทำงาน พี่ก็ยื่นเป็นผู้สอบบัญชีตลาดทุน เพราะคิดว่าถ้าเราอยู่ในสายอาชีพเราก็ควรจะทำตรงนี้ให้สำเร็จ และก็คิดว่าถ้าหากมีลูกก่อนการยื่นเป็นผู้สอบบัญชีตลาดทุนก็จะมีความยากขึ้น และเมื่อพี่ผ่านการยื่นเป็นผู้สอบบัญชีตลาดทุนสำเร็จ พี่ก็โฟกัสกับแผนที่จะมีลูกเลย ซึ่งก็เกินคาดเพราะไม่คิดว่าจะได้ลูกแฝด

คลอดก่อนกำหนด

กำหนดคลอดเดิมคือหลังปีใหม่ วันนั้นพี่จำได้ว่าเป็นช่วงทำแผนกลยุทธ์ปี 2562 แต่พี่ขาบวมเลยไปพบคุณหมอ คุณหมอแจ้งว่าต้องผ่าคลอดแล้วเนื่องจากครรภ์เป็นพิษ พี่ยังถามหมอเลยว่ารออีกหน่อยได้ไหม เพราะยังทำแผนไม่เสร็จเลยแต่หมอก็บอกว่าไม่ได้ มันมีผลต่อเด็กในท้องและตัวคุณแม่เองก็เลยต้องยอมคลอดก่อนกำหนด ส่วนเรื่องงานก็ไม่มีปัญหา เพราะว่ามีหัวหน้าและน้อง ๆ ทีมงานช่วย Support อยู่

ความคิดเปลี่ยน วางแผนได้ดีขึ้น

ก่อนมีลูกพี่มักจะเก็บเรื่องงานมาคิดเสมอ ไม่สามารถเอาตัวเองออกมาจากงานได้ หลังจากมีลูกพี่รู้สึกว่าพี่ปล่อยวางได้เยอะขึ้น มีความอดทนมากขึ้น มีการวางแผนการทำงานทำได้ดีขึ้น บริหารเวลาได้ดีขึ้น  โดยพี่จะพยายามปกกลับบ้านไม่เกิน 3 ทุ่ม เพื่อไปส่งลูกเข้านอนและพี่จะวางแผนการทำงานล่วงหน้าตั้งแต่ออกจากบ้าน เรียงลำดับความสำคัญของงานที่จะต้องทำก่อนหลัง ซึ่งพี่คิดว่าการทำงานตามมาตรฐานสอบบัญชีในหลักการ risk based approach มีส่วนช่วยในการบริหารจัดการเวลาการทำงานได้ดีขึ้นมาก อีกอย่างหนึ่งก็คือการประชุมทีมงานและการวางแผนล่วงหน้าช่วยทำให้การตรวจสอบตรงประเด็นและลดเวลาการทำงานลงได้

องค์กรเข้าใจบทบาทความเป็นแม่และสนับสนุนการทำงาน 

องค์กรยังคงสนับสนุนให้เติบโตในหน้าที่การงานโดยสม่ำเสมอ โดยมองที่งานและความสามารถในการทำงานเป็นหลัก แต่ในขณะเดียวกันก็เข้าใจบทบาทความเป็นแม่ของเราด้วย ซึ่งงานที่ได้รับมอบหมายก็จะเป็นงานที่อยู่ในกรุงเทพเป็นหลัก มีงานต่างจังหวัดบ้างแต่ไม่มาก เพราะเข้าใจว่าพี่อาจจะต้องใช้เวลาอยู่กับลูก อีกอย่างที่ประทับใจเลยคือ ท่านประธาน มักจะสอบถามถึงเรื่องการเลี้ยงลูกบ่อย ๆ ว่าเป็นอย่างไรบ้าง เหนื่อยไหม รวมถึงให้คำแนะนำในการเลี้ยง มันก็ทำให้พี่รู้สึกดีที่ได้ทำงานในองค์กรนี้

 “การมีลูกสำหรับพี่ไม่ได้เป็นอุปสรรคในการทำงานเป็นผู้สอบบัญชี แต่ทำให้มีเป้าหมายในชีวิตชัดเจนขึ้น เราจะรู้ว่าเราทำเพื่ออะไร และทำเพื่อใคร”  

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

มาถึงคุณแม่ท่านที่สอง คุณรุ่งทิพย์ แจ้งศรีสุข (คุณหมวย) ผู้สอบบัญชี คุณแม่ของน้องไจไหมและเจียหมิง

อาชีพ Audit กับบทบาทความเป็นแม่ 

สำหรับพี่ก็ไม่ง่าย แต่พี่มีความโชคดีที่สอบ CPA ได้ก่อนคลอดลูก คือจำได้เลยว่าอุ้มท้องลูกคนแรกไปสอบ CPA  และก็สอบผ่าน CPA ในรอบนั้น ซึ่งหากเรายังสอบ CPA ไม่ผ่านแล้วเรามีลูก พี่ว่าเราต้องใช้ความพยายามมากกว่าคนปกติ ถือว่าการมีลูกทำให้เรามีเป้าหมายที่ชัดขึ้นและพยายามมากขึ้น

ในช่วงที่ท้องพี่ก็ทำงานได้ปกติ ไปลูกค้าปกติ สำหรับช่วงที่ต้องลาคลอด พี่เริ่มวางแผนไว้ล่วงหน้า โดยมีการแบ่งงานใหม่ สอนงานน้องเพื่อเตรียมความพร้อม ตอนนั้นคิดว่าเราต้องสร้างมือขวาที่สามารถทำงานแทนได้ ซึ่งน้องในทีมก็ให้ความร่วมมือ พร้อมที่จะเรียนรู้ แม้ว่าช่วงที่พี่ลาคลอดเป็นช่วงปิดงบสิ้นปี โดยในช่วงนั้นการสื่อสารในการทำงานจะใช้สื่อต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการคุยกันผ่านทางโทรศัพท์ และ E-mail อีกสิ่งหนึ่งที่มีส่วนสำคัญก็คือ พี่มีเพื่อนร่วมงานที่น่ารัก ที่มาช่วยกันดูแลทีมงานแทน ทำให้งานทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี

บุคคลที่ขาดไม่ได้เลยที่พี่ควรกล่าวถึงคือ หัวหน้าของพี่ ซึ่งพี่โชคดีมากที่มีหัวหน้าที่เข้าใจและให้ความช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็นการช่วยดูแลทีมงานในช่วงที่พี่ลาคลอด และหลังจากที่กลับมาทำงานหลังลาคลอด งานที่พี่ได้รับมอบหมายส่วนใหญ่จะเป็นงานที่อยู่ในกรุงเทพและปริมณฑล ทำให้พี่สะดวกในการดูแลลูก

แนวการเลี้ยงลูก

ความตั้งใจของพี่คือ เลี้ยงให้ลูกรู้สึกว่าเราเป็นเหมือนเพื่อนของเค้า ให้ลูกมีความเชื่อใจและไว้ใจ สามารถพูดคุยกันได้ทุกเรื่อง มีอะไรก็อยากเล่าให้เราฟัง หรือเมื่อมีปัญหาก็อยากที่จะปรึกษาหรือพูดคุยกับเราได้อย่างไม่ลังเลใจ วิธีการของพี่คือพยายามสร้างความผูกพันกับลูก ให้เวลากับลูกมากเท่าที่ทำได้  กลับบ้านให้ทันอาบน้ำก่อนนอน คุยเล่นกันนิดหน่อย อ่านนิทานให้ฟัง และส่งลูกเข้านอน 

พูดถึงเรื่องนิทาน หนังสือนิทานที่บ้านเยอะมาก โดยพี่จะอ่านนิทานให้ลูกฟังตั้งแต่เล็ก ๆ เพราะมองว่านิทานมีประโยชน์มาก นิทานสามารถสอนสิ่งดี ๆ ให้ลูก สร้างความผูกพันระหว่างพ่อแม่ และยังเป็นการสร้างนิสัยรักการอ่านให้ลูกได้อีกด้วย

ส่วนเวลาที่ลูกมีกิจกรรมที่โรงเรียน พี่ก็จะพยายามไปทุก ๆ ครั้ง พี่ค่อนข้างให้ความสำคัญกับลูกมาก แต่หากพี่ไม่สะดวกที่จะไปก็จะส่งไม้ต่อไปให้คุณพ่อไปแทน

สำหรับการเลี้ยงลูกคนแรกกับคนที่สองต่างกันพอสมควร ลูกคนแรกมีความกังวลค่อนข้างสูงสำหรับการเป็นแม่มือใหม่ ระวังทุกอย่าง ได้ยินเสียงเค้าร้องไม่ได้เลยพี่วิ่งหูตั้ง แต่พอมาเลี้ยงคนที่สองเราปล่อยเค้ามากขึ้น ให้เล่นซนแล้วคอยดูอยู่ห่างๆ ทนเสียงร้องได้มากขึ้น ไม่ต้องวิ่งไปหาทันที

วางแผนการทำงานและจัดสรรเวลาให้ครอบครัว

หลังจากที่พี่มีลูกทำให้ต้องมีหน้าที่เพิ่มขึ้น ดังนั้นการแบ่งเวลาจึงถือว่ามีความสำคัญมาก ในแต่ละวันหน้าที่ในการดูแลลูกของพี่คือ เตรียมตัวให้ลูกไปโรงเรียนในตอนเช้า และจัดการส่งลูกเข้านอนในตอนค่ำ ด้วยงาน Audit ที่ค่อนข้างต้องรับผิดชอบสูง ดังนั้นในแต่ละวันพี่จะวางแผนการทำงานให้กระชับ ตรงจุด และเสร็จตามกำหนดที่วางไว้ เพื่อให้สามารถให้เวลาที่เหลือกับครอบครัวได้ 

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ หลังจากได้อ่านบทสัมภาษณ์ของทั้ง 2 ท่านการทำงานเป็นผู้สอบบัญชีไม่เป็นอุปสรรคกับการมีครอบครัวเลยใช่ไหมคะ ยิ่งเวลามีลูก ยิ่งทำให้มีการจัดการและการวางแผนที่ดีขึ้นอย่างมาก และสิ่งที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือ การที่องค์กรใส่ใจคุณภาพชีวิตของพนักงาน มีวัฒนธรรมองค์กรที่ดี และมีนโยบายที่เอื้อต่อบทบาทของพนักงานที่มีต่อครอบครัว รวมไปถึงการที่ได้รับความช่วยเหลือจากคนรอบข้างในองค์กร ก็ทำให้ผู้สอบบัญชีหายห่วงกับทั้งเรื่องงานและเรื่องครอบครัวไปเลยค่ะ