178 Dharmniti Building 6-7th Floor, Soi Permsap (Prachachuen 20), Prachachuen Road, Bangsue, Bangkok, 10800 Thailand

General News

Copy of ‘ข้อมูล’ ตัวช่วยลดความเสี่ยงจากการลงทุน

Written by

‘ข้อมูล’ ตัวช่วยลดความเสี่ยงจากการลงทุน

การตัดสินใจลงทุนนั้น สิ่งที่มีประโยชน์และเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจก็คือ “ข้อมูลต่างๆ”  เพราะฉะนั้นนักลงทุนที่ดี ต้องศึกษาอย่างละเอียดรอบคอบนะครับ 

ต้องยอมรับว่าการลงทุนในขณะนี้ที่ดีที่สุดคือ การลงทุนในหุ้นสามัญที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เนื่องจากให้ผลตอบแทนได้ดีที่สุด  ซึ่งต่างกับการลงในรูปแบบอื่น เช่น เงินฝากออมทรัพย์ที่มีอัตราดอกเบี้ยตอนนี้ ร้อยละ 0.1250 - 0.7500 ต่อปี อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำชนิด 3 เดือนอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.2500 - 1.500 ต่อปี อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำชนิด 6 เดือน ร้อยละ 0.2500-1.6000 ต่อปี และเงินฝากประจำชนิด 12 เดือน ร้อยละ 0.2500-1.7000 ต่อปี  

หมดยุคในอดีตที่ใครมีเงินฝากออมทรัพย์หรือเงินฝากประจำเมื่อ 20-30 ปีที่ผ่านมา  มีเงินในบัญชีก็แทบไม่ต้องทำอะไรเลยนั่งรอนอนรับดอกเบี้ยสบายใจ  แต่ปัจจุบันหาได้เป็นอย่างนั้นไม่ดอกเบี้ยที่ได้รับน้อยนิดตามที่กล่าวไปแล้วข้างต้นแทบจะไม่พอ แถมบ้างครั้งยังต้องกินเงินต้นเพื่อปากท้องในปัจจุบัน

การลงทุนในยุคปัจจุบันในรูปของการเข้าไปซื้อหุ้นสามัญในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยการซื้อขายผ่านโบรคเกอร์โดยตรงจึงเป็นอีกวิธีทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ  แต่ความยากและท้าทายนักลงทุนมือใหม่หรือมือเก่าคือจะเลือกซื้อหุ้นอะไรดี  เลือกหุ้นที่เป็น Top 10 ประจำวันก็เสี่ยง  เนื่องจากราคาผันผวนค่อนข้างมากหุ้นบางตัวเข้าข่ายการซื้อขายเพื่อเก็งกำไรโดยเฉพาะเมื่อเข้าไปอ่านงบการเงินแทบลมจับ.........ไม่มีทรัพย์สินที่ก่อให้เกิดรายได้เลย  หนำซ้ำยังมีแต่หนี้สินอีลุงตุงนังเข้าไปอีกจนส่วนของผู้ถือหุ้นเข้าใกล้ศูนย์บาทหรือติดลบ   แต่นักลงทุน(พี่เม่า) ก็ยังเข้าไปซื้อขายกันอีกเนื่องจากใช้ต้นทุนน้อยเงินเพียงไม่เท่าไหร่ก็ไปซื้ออขายได้แล้ว  แต่เมื่อราคาหุ้นขยับแค่ห้าสิบสตางค์หรือบาทสองบาทก็ได้กำไรเกือบร้อยสองร้อยเท่าจึงรีบปล่อยขายเพื่อทำกำไร  หารู้ไม่ว่าถ้าพลาดท่าวันใดปล่อยไม่ทันหายนะเกิดขึ้นทันที เพราะไม่รู้ราคาที่จะทำกำไรได้จะกลับมาอีกเมื่อไหร่แทบไม่มีใครรู้เลย

ดังนั้นนักลงทุนที่ดีไม่ควรมองข้ามข้อมูลทางการเงิน ใส่ใจซักนิดครับก่อนเข้าไปลงทุนเข้าใน Web site ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยครับ ไล่ดูพื้นฐานและปัจจัยต่างๆ  ในประกอบการตัดสินใจสักนิด ไม่ว่าจะเป็น

• งบแสดงฐานะการเงิน เพื่อดูความมั่งคั่งของบริษัทที่จะไปลงทุนว่ามีสินทรัพย์รวมมีอะไรบ้างราคาเท่าไร บริษัทมีที่มีทางมีที่ดินที่ตั้งสำนักงานถาวรหรือไม่ 

• อัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์เป็นเท่าไร

• เงินสดเงินฝากธนาคารมีให้ใช้ไม่ขาดมือหรือขาดสภาพคล่องหรือไม่ 

• สินค้าคงเหลือหรือรายได้ลูกหนี้จากการบริการและมีอัตราการหมุนเวียนสินค้าเป็นอย่างไร 

• หนี้สินมีอะไรบ้างในงบแสดงฐานะการเงิน และต้องจ่ายชำระในอนาคตอันใกล้เป็นอย่างไรโดยการดูอัตราส่วนสภาพคล่องหรือ Current Ratio 

• ส่วนของผู้ถือหุ้นเป็นอย่างไร

• Debt to equity ratio อยู่ในสัดส่วนอัตราเท่าใด 

• งบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จ  เพื่อดูผลการดำเนินงาน เข้าไปส่องดูกำไรสุทธิจากการดำเนินงานสำหรับงวดเป็นอย่างไร แนวโน้มรายได้เพิ่มหรือลดในงวดที่ผ่านมา ต้นทุนขายหรือบริการ ค่าใช้จ่ายในการขายหรือบริหารเมื่อเทียบกับงวดก่อนเป็นอย่างไร  แต่ถ้านักลงทุนท่านใดใจร้อนจะเป็นดูงบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จก่อนดูงบแสดงฐานการเงินก็ไม่ว่ากัน

เพียงแค่นี้ท่านก็จะได้ข้อมูลในการประกอบการตัดสินใจลงทุนที่เรียกว่า“การลงทุนหุ้นแบบเน้นคุณค่า (Value Investing)” หรือที่เรียกกันแบบย่อๆ ว่า “การลงทุนหุ้นแบบ VI” และเราจะเรียกนักลงทุนแบบ VI ว่า “Value Investor.” เท่านี้ท่านก็พอจะสบายใจระดับหนึ่งในการลงทุน แม้ในยามที่สภาพเศรษฐกิจผันผวนครับ.....

 +++++++++++++++++++++++++

นายพจน์ อัศวสันติชัย บริการตรวจสอบบัญชี

 

ผู้เชียน : นายพจน์ อัศวสันติชัย รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท สอบบัญชีธรรมนิติ จำกัด

ประสบการณ์ด้านการตรวจสอบมากว่า 20 ปี ปัจจุบันเป็นผู้สอบบัญชีตลาดทุน

Transparency Report

Read our 2024 Transparency Report

transparency