สอบบัญชี

โดย TAXBugnoms

หลังจากที่อ่านหัวข้อนี้จบ หลายคนคงคิดขึ้นมาใช่ไหมครับว่า “แล้วมันเป็นกับดักตรงไหน?” เพราะเรามักได้ยินกันมาบ่อยๆว่า การประกอบธุรกิจในรูปแบบนิติบุคคลอย่างบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนั้น จะได้รับสิทธิประโยชน์ในการประหยัดภาษีมากกว่า ทั้งในเรื่องของอัตราภาษีที่ต่ำกว่า และการสนับสนุนต่างๆจากภาครัฐที่มีโปรโมชั่นดีๆมาให้อย่างต่อเนื่อง

หลังจากที่อ่านหัวข้อนี้จบ หลายคนคงคิดขึ้นมาใช่ไหมครับว่า “แล้วมันเป็นกับดักตรงไหน?” เพราะเรามักได้ยินกันมาบ่อยๆว่า การประกอบธุรกิจในรูปแบบนิติบุคคลอย่างบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนั้น จะได้รับสิทธิประโยชน์ในการประหยัดภาษีมากกว่า ทั้งในเรื่องของอัตราภาษีที่ต่ำกว่า และการสนับสนุนต่างๆจากภาครัฐที่มีโปรโมชั่นดีๆมาให้อย่างต่อเนื่อง

หรือว่าจะเป็น นโยบายในการลดค่าใช้จ่ายแบบเหมาๆ ของเงินได้ประเภทที่ 7 และ 8 เหลือเพียง 60% จากเดิมที่เคยใช้ในอัตรา 65-85% ที่เพิ่งประกาศใช้ไม่นานมานี้ แม้ว่าตัวอย่างนี้จะมีผลกระทบกับบุคคลธรรมดาที่ประกอบธุรกิจเพราะต้องเสียภาษีมากขึ้น แต่ก็ถือว่าเป็นอีกตัวอย่างหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่ารัฐสนับสนุนให้บุคคลธรรมดากลายมาเป็นนิติบุคคลมากขึ้นเช่นเดียวกัน

นี่ยังไม่นับนโยบายสนับสนุนอื่นๆที่ตามมา ทั้งเรื่องการโอนทรัพย์สินระหว่างกันโดยที่ได้รับสิทธิยกเว้นภาษี และการหักค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการจัดตั้งบริษัท ค่าทำบัญชี สอบบัญชีที่ให้เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า สิ่งเหล่านี้ยิ่งสนับสนุนว่าความคิดของเราน่าจะถูกต้อง ว่าการทำธุรกิจในรูปแบบของนิติบุคคลนั้นน่าจะดีกว่า ทั้งในเรื่องภาษีและสิ่งดีๆที่กำลังจะเกิดขึ้น

อย่างไรก็ตาม ถ้าหากลองย้อนกลับมามองมุมอื่นที่ไม่ใช่เรื่องของภาษี เราจะพบว่ามีต้นทุนที่แฝงอยู่ และอาจจะทำให้เราไม่รู้เลยว่าจริงๆแล้วเรานั่นแหละที่กำลังติดกับดักของการประหยัดภาษีอยู่หรือเปล่า

ยกตัวอย่างง่ายๆ ครับ ถ้าหากนายบักหนอมคนนี้ แรกเริ่มเดิมทีทำธุรกิจขายของออนไลน์ (ซื้อมา-ขายไป) โดยในปี 2560 มีรายได้ประมาณ 2 ล้านบาทต่อปี และนายบักหนอมไม่มีค่าลดหย่อนในรูปแบบบุคคลธรรมดาใดๆ เลย ที่ผ่านมาชีวิตของเขาทำได้แค่การเก็บข้อมูลยอดขายไว้ ไม่ได้เก็บเอกสารหลักฐานค่าใช้จ่ายใดๆ ดังนั้นภาษีสำหรับปี 2560 นายบักหนอมจะเสียภาษีตามแบบที่ 1 ครับ

แต่ถ้าหากนายบักหนอมเลือกเสียภาษีเงินได้ในรูปแบบนิติบุคคล โดยจัดตั้งบริษัทขึ้นมา และตัดสินใจเก็บเอกสารหลักฐานต่างๆไว้ครบถ้วน ทำให้พบว่าความจริงแล้วกิจการที่ทำอยู่นั้นมีต้นทุนสินค้าจำนวน 1,600,000 บาท และยังมีค่าใช้จ่ายในการทำบัญชีจำนวน 24,000 บาท ค่าสอบบัญชี 6,000 บาท นอกจากนั้นยังจ่ายเงินเดือนให้พนักงานธุรการที่จัดการดูแลทั้งสิ้นปีละ 100,000 บาท รวมเป็นค่าใช้จ่ายทั้งหมด คือ 1,730,000 บาทเมื่อมาคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลแล้วจะเป็นแบบที่ 2 ครับ 

เปรียบเทียบกันดูระหว่าง 2 ตัวอย่างที่ยกมา เราจะเห็นว่า การเสียภาษีในรูปแบบนิติบุคคลนั้นทำให้นายบักหนอมสามารถประหยัดภาษีไปได้ถึง 63,500 บาท ซึ่งน่าจะเป็นเรื่องดีของการทำธุรกิจใช่ไหมครับ?

นี่แหละครับ!! มันคือการเปิดโอกาสให้การ์ดกับดักประหยัดภาษีทำงานทันที เพราะว่าถ้าลองดูดีๆแล้ว เราจะพบว่าค่าใช้จ่ายทีต้องเสียเพิ่มจากการทำธุรกิจในรูปแบบนิติบุคคลนั้น จะมีค่าใช้จ่ายทั้งด้านบัญชี สอบบัญชี และเงินเดือนพนักงานส่วนที่เพิ่มเข้ามาทั้งสิ้นจำนวน 130,000 บาท ซึ่งเมือมาเปรียบเทียบดูแล้วจะเห็นว่าแพงกว่าภาษีประหยัดได้จำนวน 63,500 บาทเสียอีก

จากตัวอย่างในบทความนี้ สิ่งที่ผมอยากจะแนะนำ ไม่ใช่บอกว่าการจดนิติบุคคลนั้นไม่ดีนะครับ เพียงแต่ผมอยากจะชี้ให้เห็นว่า สิ่งที่ต้องดูจริงๆ คือ

1.ต้นทุนด้านอื่นที่เพิ่มขึ้นมา สำรวจก่อนว่ามีค่าใช้จ่ายอะไรบ้างที่เราต้องจ่ายเพิ่มเพื่อดำเนินการในรูปแบบของนิติบุคคล และเปรียบเทียบกับต้นทุนภาษีที่ประหยัดได้ครับ อย่างในที่นี คือ ต้นทุนบัญชี และค่าสอบบัญชีที่เพิ่มขึ้นมา

2.ต้นทุนเวลาที่เสียไป สำรวจต่อไปครับว่า ในการจัดตั้งธุรกิจเราต้องเสียเวลาเพิ่มเติมเรื่องอะไรบ้าง อย่างในที่นี่คือต้นทุนพนักงานอีก 100,000 บาท หรืออาจจะต้องคิดต้นทุนเวลาของเราที่เพิ่มเข้ามารวมไปอีกด้วยครับ

เราควรตอบคำถามทั้ง 2 ข้อนี้ให้ได้ก่อน ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกว่าจะทำธุรกิจในรูปแบบไหน เพราะว่า สิ่งที่เราต้องประหยัดคือค่าใช้จ่ายไม่ใช่ภาษี   

ดังนั้น คิดให้ดีก่อนที่จะตกหลุมพรางของคำว่า “ประหยัดภาษี” นะครับ :)

ขอบคุณที่มา : PostToday