Big Data สำคัญต่อองค์กรอย่างไร
เนื่องจากป้จจุบันเทคโนโลยีดิจิทัลมีความก้าวหน้าอย่างมาก ทำให้ข้อมูลสำคัญต่างๆ ได้ถูกสร้างขึ้นอย่างมหาศาลและเติบโตอย่างรวดเร็ว องค์กรใดที่มีฐานข้อมูลหรือ Big Data จำนวนมากเท่าไร ก็จะทำให้เป็นข้อได้เปรียบทางธุรกิจมากเท่านั้น เพราะข้อมูลเหล่านี้สามารถนำไปต่อยอดเพิ่มโอกาสทางธุรกิจได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด
Big Data คืออะไร
Big Data หมายถึง ชุดข้อมูลขนาดใหญ่ ที่มีปริมาณมหาศาล เพราะข้อมูลสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาทุกวินาที เช่น ฐานข้อมูลองค์กร ฐานข้อมูลของลูกค้า ข้อมูลโซเชียลมีเดีย โดยอาศัยเทคโนโลยีและซอฟต์แวร์ในการเก็บรวบรวม จัดการ และวิเคราะห์
ปัจจุบันโลกกำลังถูกขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ชุดข้อมูล (Data) จำนวนมากถูกสร้างขึ้นใหม่ทุกวัน และสามารถทำการเก็บรวบรวมได้ง่ายขึ้น ตัวอย่างการใช้ Big Data ที่ใกล้ตัว เช่น การเสิร์ชข้อมูลบน Google การใช้บริการสตรีมมิ่งต่าง ๆ เช่น YouTube, Netflix, Spotify หรือแม้การใช้งาน GPS
ลักษณะสำคัญของ Big Data หรือ “5Vs” ประกอบด้วย
1. V - Volume มีปริมาณมาก หมายถึง ข้อมูลที่มีปริมาณมหาศาล มีความแตกต่างกันไปตามแต่ละองค์กร เป็นได้ทั้งข้อมูลแบบออนไลน์และข้อมูลแบบออฟไลน์ โดยข้อมูลเหล่านี้จะมีปริมาณมากกว่าหน่วย TB (Terabyte) ขึ้นไป
2. V - Variety มีความหลากหลาย หมายถึง ข้อมูลมีรูปแบบแตกต่างกันออกไป ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบหลักๆ คือ ข้อมูลที่มีโครงสร้าง (Structured data) เช่น ข้อมูลตัวเลข ข้อมูลตัวอักษร เป็นต้น และข้อมูลที่ไม่มีโครงสร้าง (Unstructured data) เช่น ข้อมูลภาพ ข้อมูลเสียง ข้อมูลวิดีโอ เป็นต้น
3. V - Velocity มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว หมายถึง ข้อมูลที่สามารถเปลี่ยนแปลงผันผวนได้ต่อเนื่องตลอดเวลา เพราะมีข้อมูลใหม่ๆ เข้ามาอัปเดตอยู่ตลอดแบบ Real-time ทำให้การประมวลผลเพื่อหารูปแบบแบบ Manual ทำได้ยาก
4. V - Veracity ยังไม่ผ่านการประมวลผล หมายถึง ข้อมูลที่ยังไม่สามารถใช้งานได้ทันที เพราะมีข้อมูลปริมาณมหาศาล จำเป็นต้องมีการจัดรูปแบบเพื่อทำความเข้าใจ ผ่านกระบวนการประมวลผลจึงจะนำไปใช้งานได้
5. V - Value มีคุณค่า หมายถึง ข้อมูลมีคุณค่าต่อการนำไปใช้งาน สามารถก่อให้เกิดประโยชน์ทางธุรกิจได้ เช่น พฤติกรรมการค้นหาข้อมูลผ่าน Google ก็สามารถทำให้ทราบถึงความสนใจของผู้คนในช่วงเวลานั้นๆ ได้
Big Data มีประโยชน์ต่อองค์กรอย่างไร
1. ช่วยพัฒนาการให้บริการลูกค้า Big data มักถูกนำมาใช้เพื่อหาความต้องการลูกค้า แก้ไขปัญหาและทำความเข้าใจพฤติกรรมของลูกค้า เพื่อพัฒนาการบริการลูกค้าให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
2. ช่วยปรับปรุงการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น Big Data ไม่ได้ถูกนำมาใช้แค่ในด้านทำการตลาดเท่านั้น แต่ยังถูกนำมาใช้เพื่อวิเคราะห์กระบวนการทำงานเพื่อประสิทธิผลของการทำงาน อีกทั้งยังลดค่าใช้จ่ายให้ธุรกิจได้อีกด้วย เช่น
เพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากร ลดความสูญเปล่า
3. ช่วยในการตัดสินใจ Big Data ช่วยให้ผู้นำองค์กรสามารถตัดสินใจโดยอาศัยข้อมูลในการขับเคลื่อนกลยุทธ์และนโยบาย นอกจากจะคาดการณ์ได้แม่นยำมากขึ้นยังสามารถระบุความเสี่ยงหรือโอกาสที่อาจเกิดขึ้นได้อีกด้วย
4. ช่วยพัฒนาศักยภาพธุกิจ Big Data สามารถช่วยให้องค์กรค้นพบโอกาสใหม่ๆ จากข้อมูลจำนวนมาก เช่น โอกาสทางการตลาด โอกาสในการปรับปรุงผลิตภัณฑ์หรือบริการ โอกาสในการขยายธุรกิจ
ข้อควรระวังในการใช้ Big Data
แม้ Big Data จะมีประโยชน์ต่อองค์กรในหลายๆ ด้าน แต่ก็มีข้อควรระวังที่องค์กรควรทราบเพื่อประกอบการพิจารณา ดังนี้
1. ค่าใช้จ่าย การใช้ Big Data มักมีค่าใช้จ่ายที่ต้องลงทุนสูง เนื่องจากเป็นการจัดการกับข้อมูลขนาดใหญ่ จำเป็นต้องมี
บุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน มีเทคโนโลยีและเครื่องมือช่วยในการจัดเก็บข้อมูล วิเคราะห์และประมวลผล ทำให้การทำ Big Data มักถูกจำกัดอยู่แค่องค์กรขนาดใหญ่เท่านั้น
2. ความเสี่ยงในการละเมิดความเป็นส่วนตัว สำหรับ Big Data ที่มีการจัดเก็บข้อมูลส่วนตัวของลูกค้า จำเป็นต้องมีแบบฟอร์มขออนุญาตอย่างชัดเจน ดังนั้นองค์กรจำเป็นต้องศึกษาและปรับรูปแบบการเก็บข้อมูล Big Data เพื่อป้องกันการละเมิดความเป็นส่วนตัวของบุคคล ซึ่งเป็นความคุ้มครองตามกฎหมาย พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หรือ PDPA
3. การรักษาความปลอดภัย เนื่องจาก Big Data เป็นฐานข้อมูลขนาดใหญ่ จึงมักตกเป็นเป้าของอาชญากรไซเบอร์อยู่บ่อยครั้ง ดังนั้นองค์กรจึงต้องมีเทคโนโลยีรักษาความปลอดภัยต่างๆ กับ Big Data
สรุป Big Data คือคลังเก็บฐานข้อมูลขนาดใหญ่ ที่เข้ามามีบทบาทในการดำเนินธุรกิจในหลายๆ ด้าน เนื่องจากเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังที่จะช่วยให้องค์กรประสบความสำเร็จ ยิ่งองค์กรใดมีข้อมูล Big Data มากเท่าใดก็ยิ่งทำให้ได้เปรียบคู่เเข่งทางธุรกิจมากเท่านั้น
ผู้เขียน : คุณรุ่งทิพย์ แจ้งศรีสุข
แหล่งที่มา