นายวรพงษ์ สุธานนท์ หุ้นส่วนสายงาน Forensic services บริษัท PwC Consulting (ประเทศไทย) เปิดเผยในงานสัมมนา PwC Forensics Summit ซึ่งจัดขึ้นเพื่อระดมความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวทางในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการทุจริตในองค์กร จากผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ด้านการตรวจสอบและป้องกันอาชญากรรมทางการเงินของภาครัฐและภาคเอกชนว่า จากการสำรวจผู้เข้าร่วมงานสัมมนาครั้งนี้พบว่า ผู้ถูกสำรวจมากถึง 93% ระบุว่า มีโอกาสเกิดการทุจริตจากการจัดซื้อ กับธุรกิจที่ดำเนินการในไทยในช่วงปี 60-61 ซึ่งการทุจริตในการจัดซื้อนี้ ถือเป็นปัญหาและภัยร้ายแรงที่ตรวจพบมากที่สุดเป็นลำดับต้นๆ
ทั้งในไทยและระดับโลก สอดคล้องกับผลสำรวจอาชญากรรมทางเศรษฐกิจปี 59 ของ PwC ประเทศไทย ซึ่งสำรวจองค์กรภาคธุรกิจและหน่วยงานภาครัฐในไทยพบว่า การทุจริตจัดซื้อจะเป็นปัญหาการทุจริตที่ตรวจพบมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของไทยในปีนี้ รองจากการยักยอกสินทรัพย์และการรับสินบนและคอร์รัปชัน “ปัญหาอาชญากรรมทางเศรษฐกิจล้วนเกิดจากพนักงานภายในองค์กร ทำให้ยากต่อการตรวจสอบการทุจริต โดยผลสำรวจปีก่อน สะท้อนให้เห็นถึงข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ได้ดี เพราะผู้ถูกสำรวจเกือบ 80% ยอมรับว่าการทุจริตเกิดจากคนในทั้งสิ้น”
นายวรพงษ์กล่าวต่อว่า สาเหตุของการทุจริตจัดซื้อที่พบส่วนใหญ่ เกิดจากการที่พนักงานสมรู้ร่วมคิดกับคู่ค้า และบ่อยครั้งก็มีการฮั้วในขั้นตอนการเลือกผู้ค้า ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่องค์กรต่างๆจะต้องมีการตรวจสอบวิเคราะห์คุณสมบัติพื้นฐานของพนักงานและคู่ค้า ครอบคลุมถึงความสัมพันธ์ระหว่างพนักงานกับบุคคลที่สามที่เป็นผู้ค้าของบริษัท โดยหากบริษัทมีการประเมินความพร้อม และตรวจสอบคุณสมบัติพื้นฐานของผู้ค้า จะช่วยลดความเสี่ยงการเกิดทุจริตในขั้นตอนการประกวดราคา การจัดซื้อจัดจ้าง และการชำระเงินได้
สำหรับประเทศไทยนั้นนายวรพงษ์กล่าวว่า ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ เพราะส่งผลต่อภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นของประเทศ ทั้งนี้ จากผลการจัดอันดับดัชนีชี้วัดภาพลักษณ์คอร์รัปชันประจำปี 59 โดยองค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ พบว่าไทยตกมาอยู่ที่อันดับ 101 จากทั้งหมด 176 ประเทศ ถือเป็นลำดับที่ต่ำที่สุดในรอบ 3 ปี นับจากปี 56 “ค่าคะแนนดัชนีชี้วัดภาพลักษณ์คอร์รัปชันของไทยถือว่ารั้งท้ายประเทศกลุ่มเศรษฐกิจบริคส์ และคิวบาที่ถูกคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ สะท้อนให้เห็นว่าทุกฝ่ายต้องทำหน้าที่ให้ดีกว่านี้ หากต้องการให้ไทยเป็นประเทศที่น่าดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติ”
ที่มา : ไทยรัฐ