ความสำคัญที่ผู้สอบบัญชีต้องสื่อสารกับผู้มีหน้าที่ในการกำกับดูแล2568
คนส่วนใหญ่จะเข้าใจว่างานตรวจสอบบัญชีเป็นงานที่ต้องตรวจสอบบัญชีในห้องกับเอกสารกองใหญ่ และไม่จำเป็นต้องออกไปติดต่อสื่อสารกับใคร แต่ในความจริงแล้ว ผู้สอบบัญชีต้องให้ความสำคัญการสื่อสารกับผู้มีหน้าที่กำกับดูแลของบริษัท เพื่อให้ทราบถึงความรับผิดชอบของผู้สอบบัญชีในการตรวจสอบงบการเงิน รวมถึงภาพรวมของขอบเขตและช่วงเวลาของการสอบบัญชีตามที่ได้วางแผนไว้ การได้มาซึ่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการสอบบัญชี ข้อสังเกตจากการตรวจสอบซึ่งมีนัยสำคัญ กระบวนการในการจัดทำรายงานทางการเงิน และการสื่อสารแบบสองทางที่มีประสิทธิผลระหว่างผู้สอบบัญชีและผู้มีหน้าที่ในการกำกับดูแล
“ผู้มีหน้าที่ในการกำกับดูแล” คือใคร
ผู้มีหน้าที่กำกับดูแล คือ บุคคลหรือกลุ่มบุคคล หรือองค์กรหรือกลุ่มองค์กร ที่มีความรับผิดชอบในการสอดส่องดูแล การกำหนดแนวทางเชิงกลยุทธ์ของกิจการ และภาระความผิดชอบในส่วนที่เกี่ยวข้องกับความน่าเชื่อถือของกิจการ ซึ่งรวมถึงการสอดส่องดูแลกระบวนการในการจัดทำรายงานทางการเงิน และอาจรวมถึงบุคลากรที่ทำ หน้าที่ในการบริหารจัดการ
โดยปกติโครงสร้างการกำกับดูแลของกิจการอาจแตกต่างกันในแต่ละประเทศหรือแต่ละกิจการ ซึ่งเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงอิทธิพลของความแตกต่างทางพื้นฐานด้านวัฒนธรรมและด้านกฎหมาย รวมถึงความแตกต่างด้านขนาดของกิจการและลักษณะความเป็นเจ้าของกิจการ เช่น การกำหนดให้มีคณะกรรมการกำกับดูแลกิจการ ทั้งรูปแบบรวมและแยกต่างหากตามกฎหมายจากคณะกรรมการบริหาร และบางประเทศกำหนดให้เป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายของคณะกรรมการชุดเดียวกันหรือคณะกรรมการร่วม
“เรื่องที่ผู้สอบบัญชีต้องสื่อสาร” มีอะไรบ้าง
เรื่องที่ต้องสื่อสาร |
รายละเอียด |
1. ความรับผิดชอบของผู้สอบบัญชีในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบงบการเงิน |
- ความรับผิดชอบในการแสดงความเห็นต่องบการเงินที่ได้จัดทำขึ้นโดยผู้บริหารของกิจการภายใต้การกำกับดูแลของผู้มีหน้าที่ในการกำกับดูแล
- การตรวจสอบงบการเงินไม่ได้เป็นการปลดเปลื้องความรับผิดชอบของผู้บริหารและผู้มีหน้าที่ในการกำกับดูแล |
2. ขอบเขตและช่วงเวลาของการสอบบัญชีที่ได้วางแผนไว้ |
- การสื่อสารเกี่ยวกับขอบเขตและช่วงเวลาของการสอบบัญชี เพื่อให้ผู้มีหน้าที่ในการกำกับดูแลเข้าใจการทำงานของผู้สอบบัญชีมากขึ้นรวมถึงการหารือประเด็นของความเสี่ยงและแนวคิดเกี่ยวกับความมีสาระสำคัญร่วมกับผู้สอบบัญชี - การสื่อสารเกี่ยวกับความเสี่ยงที่มีนัยสำคัญที่ผู้สอบบัญชีได้ระบุไว้ เพื่อให้มีหน้าที่ในการกำกับดูแลเข้าใจเกี่ยวกับความเสี่ยงนั้นๆ และเหตุผลที่ถูกกำหนดให้เป็นความเสี่ยงที่มีนัยสำคัญ |
3. เรื่องสำคัญที่พบจากการสอบบัญชี |
- การสื่อสารความคิดเห็นของผู้สอบบัญชีที่เกี่ยวข้องกับประเด็นเชิงคุณภาพที่สำคัญของวิธีปฏิบัติทางบัญชีของกิจการ รวมถึงนโยบายบัญชี การประมาณการทางบัญชี และการเปิดเผยข้อมูลในงบการเงิน - อุปสรรคสำคัญที่พบในระหว่างการตรวจสอบบัญชี - เรื่องที่สำคัญ (หากมี) ที่เกิดขึ้นจากการตรวจสอบที่ได้มีการปรึกษาหารือหรือที่จะต้องหารือกับผู้บริหาร - สถานการณ์ที่กระทบต่อรูปแบบและเนื้อหาของรายงานของผู้สอบบัญชี (หากมี) - เรื่องที่สำคัญอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นจากการสอบบัญชีซึ่งผู้สอบบัญชีได้ใช้ดุลยพินิจเยี่ยงผู้ประกอบวิชาชีพแล้วเห็นว่ามีความเกี่ยวข้องกับการกำกับดูแลกระบวนการในการจัดทำรายงานทางการเงิน |
4. ความเป็นอิสระของผู้สอบบัญชี |
ในกรณีของกิจการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ผู้สอบบัญชี ต้องสื่อสารกับผู้มีหน้าที่ในการกำกับดูแล ในเรื่องดังต่อไปนี้ - ข้อความว่ากลุ่มผู้ปฏิบัติงานตรวจสอบและผู้ปฏิบัติงานอื่นในสำนักงานสอบบัญชี (ตามความเหมาะสม) สำนักงานสอบบัญชี และสำนักงานเครือข่ายของสำนักงานสอบบัญชี (ในกรณีที่เกี่ยวข้อง) ได้ปฏิบัติตามข้อกำหนดจรรยาบรรณของผู้สอบบัญชีที่เกี่ยวข้องกับความเป็นอิสระ |
5. การสื่อสารข้อบกพร่องของการควบคุมภายใน |
- สื่อสารอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรถึงข้อบกพร่องของการควบคุมภายในที่มีนัยสำคัญที่ผู้สอบบัญชีได้สื่อสารหรือมีความตั้งใจที่จะสื่อสารไปยังผู้มีหน้าที่ในการกำกับดูแลของกิจการ เว้นแต่ผู้สอบบัญชีอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่เหมาะสมที่จะสื่อสารไปยังผู้บริหารโดยตรง - สื่อสารข้อบกพร่องของการควบคุมภายในอื่นที่ผู้สอบบัญชีพบในระหว่างการตรวจสอบ ซึ่งยังไม่มีหน่วยงานอื่นสื่อสารไปยังผู้บริหารของกิจการ และตามดุลยพินิจเยี่ยงผู้ประกอบ วิชาชีพของผู้สอบบัญชีเห็นว่ามีความสำคัญเพียงพอที่สมควรได้รับความสนใจจากผู้บริหารของกิจการ - ผู้สอบบัญชีต้องสื่อสารเป็นลายลักษณ์อักษรเกี่ยวกับข้อบกพร่องของการควบคุมภายในที่มีนัยสำคัญ โดยต้องมีคำอธิบายของข้อบกพร่องและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น และข้อมูลที่เพียงพอที่จะทำให้ผู้มีหน้าที่ในการกำกับดูแลและผู้บริหารของกิจการเข้าใจเนื้อหาของการสื่อสาร |
กระบวนการสื่อสารกับผู้มีหน้าที่ในการกำกับดูแลและการจัดทำเอกสารหล้กฐาน
1. การสร้างกระบวนการการสื่อสาร
ผู้สอบบัญชีต้องคำนึงถึงการสื่อสารที่ชัดเจนเกี่ยวกับความรับผิดชอบของผู้สอบบัญชี ขอบเขตและช่วงเวลาของการสอบบัญชีที่ได้วางแผนไว้ และเนื้อหาสาระทั่วไปที่คาดว่าการสื่อสารจะช่วยเสริมสร้างพื้นฐานของการสื่อสารแบบสองทางอย่างมีประสิทธิผล
2. รูปแบบของการสื่อสาร
ผู้สอบบัญชีต้องสื่อสารอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรสำหรับประเด็นสำคัญที่ตรวจพบจากการสอบบัญชี (การสื่อสารเป็นลายลักษณ์อักษรไม่จำเป็นที่จะต้องมีทุกประเด็นที่ตรวจพบ) และประเด็นที่เกี่ยวข้องกับความเป็นอิสระของผู้สอบบัญชี
3. ช่วงเวลาของการสื่อสาร
ผู้สอบบัญชีต้องสื่อสารอย่างทันท่วงทีตลอดการตรวจสอบในเรื่องที่ผู้สอบบัญชีได้หารือและมีการสนทนาแต่ละประเด็นของเรื่องนั้นอย่างละเอียด และปัจจัยอื่น ๆ ที่อาจเกี่ยวข้องกับการกำหนดช่วงเวลาของการสื่อสาร
4. ความเพียงพอของกระบวนการสื่อสาร
ผู้สอบบัญชีต้องประเมินว่าการสื่อสารแบบสองทางนั้นเพียงพอตามวัตถุประสงค์ของการสอบบัญชี (กรณีไม่เพียงพอตามวัตถุประสงค์ ผู้สอบบัญชีต้องประเมินถึงผลกระทบ (หากมี) ต่อการประเมินความเสี่ยงของการแสดงข้อมูลที่ขัดต่อข้อเท็จจริงอันเป็นสาระสำคัญและความสามารถในการได้มาซึ่งหลักฐานการสอบบัญชีที่เหมาะสมอย่างเพียงพอ รวมทั้งต้องดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งที่เหมาะสม)
5. เอกสารหลักฐาน
เอกสารหลักฐานควรประกอบด้วย เอกสารหลักฐานของการสื่อสารทางวาจา อาจรวมถึงสำเนารายงานการประชุมคณะกรรมการตรวจสอบที่จัดทำโดยกิจการ และสรุปเนื้อหาที่จัดเก็บไว้เป็นส่วนหนึ่งของเอกสารหลักฐานการสอบบัญชี หากรายงานการประชุมนั้นได้มีการบันทึกเนื้อหาการสื่อสารอย่างเหมาะสม
อ้างอิง : มาตรฐานการสอบบัญชี รหัส 260 (ปรับปรุง) และมาตรฐานการสอบบัญชี รหัส 265
ผู้เขียน : คุณณัฏฐพล กลิ่นไชย
บริษัท สอบบัญชีธรรมนิติ จำกัด